(Body Area Network : BAN)
เทคโนโลยีของการสื่อสารไร้สายกำเนิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมเมื่อครั้งที่
กูเกียเอลโม มาร์โคนี ได้สาธิตการส่งสัญญาณโทรเลขแบบไร้สายเป็นครั้งแรกของโลกในปี
ค.ศ.1896
โดยได้ระยะทางไกล 1.75 ไมล์ นับแต่นั้นมา
ความสำเร็จในการประดิษฐ์คิดค้นเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายตลอดช่วงเวลาหนึ่งศตวรรต
เช่น วิทยุเอเอ็ม/เอฟเอ็ม โทรทัศน์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ อินเทอร์เน็ตไร้สาย
รวมไปถึงการสื่อสารผ่านดาวเทียม
ได้นำมาซึ่งประโยชน์อันมหาศาลและการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายต่อมนุษยชาติ
ที่น่าสนใจคือการคิดค้นและพัฒนาการสื่อสารไร้สายไม่เคยหยุดนิ่ง
กลับทวีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว วันนี้
นักวิจัยและวิศวกรทางด้านไฟฟ้าสื่อสารกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีสื่อสารรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า
Body Area Network (BAN) ขึ้น
เพื่อทำหน้าที่เป็นโครงข่ายการสื่อสารสำหรับอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์
เนื่องจากที่ผ่านมาการสื่อสารของมนุษย์กับโลกภายนอกจะเกี่ยวข้องกับอวัยวะหลักเพียง
3 ชิ้น คือ ตา หู และปาก เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นอินเทอร์เน็ต
และคุยโทรศัพท์ แต่วันนี้เทคโนโลยี BAN มุ่งเน้นไปที่อวัยวะทุกชิ้นส่วนของร่างกายให้สามารถสื่อสารเชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้
ดังนั้น โครงข่ายสื่อสารไร้สาย BAN นี้จึงเป็นประโยชน์โดยตรงต่อวงการวิชาการทางแพทย์
สำหรับการรักษาดูแลสุขภาพ การตรวจวัดสมรรถนะของร่างกาย
การติดตามเฝ้าดูอาการผู้ป่วย การดูแลผู้สูงอายุ ผู้พิการ
และการวินิจฉัยโรคที่มีความถูกต้องและทันเวลา
หลักการทำงาน
1.ข้อมูลหลายๆ
ชนิดสามารถ ส่งแบบไร้สาย เช่น การส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ เสียงโทรศัพท์
การส่งสัญญาณโทรทัศน์และวิทยุ ในขั้นตอนแรกข้อมูลที่ถูกส่งจะสร้างมาจากมาจากอุปกรณ์ที่สร้างข้อมูล
เช่น คอมพิวเตอร์มือถือ สถานีวิทยุ หรือโทรศัพท์มือถือเป็นต้น
2.ข้อมูลที่ถูกส่งจะไปผสมกับคลื่นความถี่วิทยุ
(RF) โดยกระบวนการโมดูเลชัน
(Modulation) สัญญาณที่จะเป็นตัวส่งข้อมูลเรียกว่าคลื่นตัวนำ
(Carrier
Wave) ข้อมูลจะถูกผสมไปกับคลื่นตัวนำ
โดยอุปกรณ์ที่เรียกว่าโมดูเลเตอร์ (Modulator) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีวิธีการหลายวิธีในการโมดูเลตข้อมูลไปกับคลื่นตัวนำโมดูเลเตอร์อาจจะรวมอยู่กับอุปกรณ์ที่สร้างข้อมูลอย่างเช่น
โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ มือถือ หรืออาจแยกอยู่ต่างหากเช่นโทรทัศน์
3.สัญญาณจะถูกส่งโดยอุปกรณ์ส่งสัญญาณที่จะนำสัญญาณมาและส่งออกไปโดยผ่านทางอากาศ
อุปกรณ์สัญญาณนั้นมีหลายแบบโดยขึ้นอยู่กับชนิดข้อมูลที่จะส่งระยะทาง
และความเร็วของสัญญาณ
และขนาดนั้นอาจเล็กมากเหมือนที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือหรืออาจจะใหญ่มากเหมือนเสาอากาศส่งสัญญาณของโทรทัศน์
4.อุปกรณ์รับสัญญาณสามารถรับสัญญาณได้โดยตรงหรืออาจผ่านทางระบบเครือข่ายโดยขึ้นอยู่กับชนิดข้อมูลที่ส่ง
ในกรณีของโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์มือถือเมื่อจะติดต่อกับอินเทอร์เน็ตมันจะส่งสัญญาณไปที่เครือข่ายและส่งต่อไปยังผู้รับโดยใช้อุปกรณ์ส่งสัญญาณ
(Transmitter)
5.ที่จุดรับสัญญาณ
เสาอากาศหรือสายอากาศจะรับคลื่นวิทยุที่ต้องการและไม่รับคลื่นที่เหลือ
อุปกรณ์รับสัญญาณจะใช้ แอมพลิไฟเออร์ (Amplifier) เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของสัญญาณเนื่องจากสัญญาณที่รับมานั้นจะอ่อนมาก
6.โมดูเลเตอร์ จะทำการแปลสัญญาณและแยกคลื่นตัวนำออกจากข้อมูลถูกส่งมาพร้อมกัน
เพื่อที่จะเปลี่ยนกลับไปเป็นข้อมูลดังเดิมที่สั่งมา
7.ข้อมูลที่ถูกส่งมายังอุปกรณ์รับสัญญาณ
สามารถแสดงข้อมูลที่ส่งมาได้แล้ว
ข้อดีและข้อเสียของเทคโนโลยีไร้สาย
ข้อดี
-ช่วยลดปัญหาในการติดตั้งระบบเครือข่าย
-ช่วยลดปัญหาในการวางสายระบบเครือข่าย
-ไม่ต้องใช้สาย cable
-ช่วยให้เกิดความเป็นระเบียบ
เรียบร้อย
ข้อเสีย
-มีอัตราการลดทอนสัญญาณสูง
นั่นหมายความว่า “ ส่งสัญญาณได้ระยะสั้น ”
-มีสัญญาณรบกวนสูง
-ต้องแชร์กันใช้ช่องสัญญาณคลื่นความถี่เดียวกัน
-ยังมีหลายมาตรฐานตามผู้ผลิตแต่ละราย ทำให้มีปัญหาในการใช้งานร่วมกัน